บริการของเรา
หาก Cloud ล่มเพียงไม่กี่วินาที อาจสร้างความเสียหายมหาศาล !
ในยุคดิจิทัลที่หลายธุรกิจส่วนใหญ่พึ่งพาระบบคลาวด์ (Cloud) ในการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูล การทำงานแบบรีโมต
หรือการให้บริการลูกค้า แต่รู้ไหมว่าแค่ Cloud ล่มเพียงไม่กี่นาทีสามารถสร้างความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้ให้กับธุรกิจได้มากกว่าที่คิด
สถิติการใช้ Cloud ทั่วโลก
Gartner ประเมินว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการหยุดให้บริการอยู่ที่ 5,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อนาทีในทุกอุตสาหกรรม นอกจากนี้จากผลสำรวจ
ของ ITIC ในปี 2024 พบว่าองค์กรขนาดใหญ่และขนาดกลางกว่า 90% รายงานว่าการหยุดทำงานเพียงหนึ่งชั่วโมงมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง
330,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง เห็นได้ชัดว่าการไม่มีข้อมูลอาจทำให้องค์กรสูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อชั่วโมง
ทำไมแค่ 1 นาทีถึงส่งผลกระทบมหาศาล ?
ระบบคลาวด์ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อระบบนี้หยุดทำงาน
แม้เพียงนาทีเดียวธุรกิจก็อาจประสบกับปัญหา ดังนี้
ยอดขายและรายได้ก็หยุดตามทันทีส่งผลให้เสียโอกาสที่ไม่สามารถกู้คืนได้
นำไปสู่การขาดความเชื่อมั่นและเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อฐานลูกค้า ส่งผลเสียต่อโอกาสทางธุรกิจและภาพลักษณ์
ส่งผลกระทบหนักต่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
รวมถึงค่าแรงงานและเวลาที่สูญเสียไป ซึ่งรวมกันแล้วสูงกว่าค่าใช้จ่ายปกติหลายเท่า
เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการหยุดทำงานของระบบคลาวด์ องค์กรจำเป็นต้องมีแผนบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ
และโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมสูงด้วยระบบ Cloud ที่ออกแบบมาเพื่อความต่อเนื่องของธุรกิจด้วยระบบป้องกันการหยุดชะงัก
เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้อย่างมั่นคง
จะเห็นได้ว่าในยุคที่ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ ระบบคลาวด์ได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญขององค์กร
ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการลูกค้า การประมวลผลข้อมูลหรือการทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ การหยุดทำงานแม้เพียงไม่กี่นาทีของระบบ
Cloud ก็สามารถสร้างผลกระทบรุนแรงได้ ทั้งด้านรายได้ ความเชื่อมั่นของลูกค้าและต้นทุนในการกู้คืนระบบกลับมาใช้งาน การเลือกผู้ให้
บริการคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐานสูงจึงเป็นสิ่งสำคัญ
อ้างอิงเว็บไซต์
วันที่ 8 ก.ย. 2568
เมื่อ Machine Learning (ML) หรือ “การเรียนรู้ของเครื่อง” ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราโดยแทบไม่รู้ตัว เพราะถูกนำมาใช้ในแอปและบริการต่างๆ ที่เราพึ่งพาทุกวัน โดยไม่ได้เข้ามามีบทบาทแค่ในชีวิตประจำวันเท่านั้นแต่กำลังกลายเป็น เครื่องมือสำคัญของโลกธุรกิจในยุคดิจิทัลเพราะสามารถช่วยให้บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลและตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
วันที่ 3 ก.ย. 2568
บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 29110 อย่างเป็นทางการ โดยผ่านการประเมินจาก SGS (Thailand) Ltd. ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบและรับรองมาตรฐานระดับสากล
วันที่ 1 ก.ย. 2568
บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ได้รับคะแนนการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (Annual General Meeting: AGM) ประจำปี 2568 ในระดับ “ดีเยี่ยม” ด้วยคะแนนเต็ม 100 คะแนน จากโครงการประเมิน คุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียน (AGM Checklist) จัดโดย สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (Thai Investors Association: TIA) ร่วมกับ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตอกย้ำความโปร่งใส ด้วยหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการสื่อสารข้อมูลที่ตรวจสอบได้